ส่งตัวแทนหมู่บ้าน!
แท้จริงแล้ว ผู้ควบคุมงานจะแบ่งส่วนคอนกรีตที่ผสมไว้ตาม Mixed Design ออกมาส่วนหนึ่ง เพื่อใช้ในการทดสอบทางกลต่าง ๆ เช่น การรับแรงอัดในเสา การรับโมเมนต์ดัดของคาน เป็นต้น เพื่อทดสอบว่าคอนกรีตที่ออกแบบไว้สามารถรับแรงได้ตามที่ออกแบบไว้หรือไม่

ทรงกระบอก ตอกให้ซ้ำเหมือนย้ำว่ายังไงเธอก็ไม่กลับมา
การทดลองรูปแบบแรก คือการแบ่งส่วนคอนกรีตผสมเสร็จใส่แบบหล่อคอนกรีตรูปทรงกระบอกที่ถูกทาด้วยน้ำมันเครื่อง เพื่อให้คอนกรีตที่แข็งตัวแล้วหลุดจากพิมพ์ได้ง่าย (เหมือนการทำขนมแล้วทาเนยในแม่พิมพ์) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 ซม. และความสูง 30 ซม. เรียกง่าย ๆ ว่าเสมือนจำลองเสาขนาดเล็กที่พกพาง่าย หิ้วไปไหนมาไหนได้สะดวก โดยหลังจากคอนกรีตแข็งตัว จึงนำไปบ่มในบ่อบ่มที่ใส่น้ำไว้ให้มิดเสาต้นน้อย 7 /28 วันแล้วแต่ที่ระบุไว้ในข้อกำหนด
จากนั้นนำเสาต้นน้อยมาแคปหัวด้วยซัลเฟอร์ หรือกำมะถัน ด้วยเครื่องแคปหัวคอนกรีต เพื่อให้หน้าตัดรับแรงราบเป็นระนาบเดียวกัน ก่อนจะเอาไปทดสอบจนเสาน้อยพังจนไม่สามารถใช้งานต่อไปได้นั่นเอง

ทรงลูกบาศก์ ขาดรัก
นอกจากจะมีแม่พิมพ์แบบทรงกระบอกแล้ว แม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ก็ยังเป็นที่นิยมเช่นกัน โดยแม่พิมพ์จะมีขนาด 15*15*15 ซม. วิธีการหล่อคอนกรีต และทดสอบกำลังก็เหมือนกับคอนกรีตรูปทรงกระบอก เพียงแต่ว่าทรงลูกบาศก์นั้นไม่จำเป็นต้องแคปหัวด้วยกำมะถัน เพราะพื้นที่ผิวสัมผัสมีความเรียบกว่า

แบบหล่อทั้งสองแบบแตกต่างกันอย่างไร?
แบบหล่อรูปทรงกระบอกนั้น มาจากมาตรฐาน ASTM และนิยมใช้ในประเทศเนื่องจากประเทศแคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เป็นต้น ในขณะที่ทรงลูกบาศก์นั้นมาจากมาตรฐานอังกฤษ
ส่วนประเทศไทยของเรานั้นก็ประเทศที่มีการรับวิทยาการมาปรับใช้เก่ง จึงพบเห็นการใช้แบบหล่อทั้งรูปทรงกระบอกและลูกบาศก์ ส่วนข้อแตกต่างคือการรับกำลังของคอนกรีตทรงกระบอกนั้นจะมีค่าประมาณ 80% ของคอนกรีตทรงลูกบาศก์
Summary
แม้ว่าความสามารถในการรับกำลังของคอนกรีตทั้งสองรูปทรงจะต่างกันอยู่ประมาณ 20% แต่เราก็สามารถเทียบกำลังที่วัดได้จากรูปทรงใดรูปทรงหนึ่งแล้วใช้ตารางแปลงค่ากำลังระหว่างคอนกรีตทั้งสองรูปทรงนี้ได้
ดังนั้น ไม่ว่าผู้อ่านจะมีแบบหล่อคอนกรีตรูปทรงไหนก็ตาม ก็ยังใช้งานต่อได้ หรือหากท่านกำลังมองหาแบบหล่อคอนกรีต CST มีบริการให้ท่านทั้ง 2 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทรงกระบอก หรือลูกบาศก์!