การออกแบบฝาท่อระบายน้ำเกิดขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1977 ที่เมืองนาฮะ จังหวัดโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น โดยได้ออกแบบฝาลายปลาแหวกว่ายในน้ำ จากนั้นก็มีผู้คนเริ่มสนใจแนวคิดในการออกแบบฝาท่อระบายน้ำที่สามารถใช้งานได้และมีคุณค่าทางศิลปะให้ได้ชมกันอย่างเพลินตา ในปีค.ศ. 1981 เริ่มมีการใช้สีเรืองแสงเคลือบลายฝาท่อระบายน้ำเพื่อให้นักดับเพลิงสามารถมองเห็นได้ในเวลากลางคืนและยังเพิ่มความสวยงามให้กับฝาท่อระบายน้ำอีกด้วย

ต่อมาญี่ปุ่นเริ่มมีการออกแบบฝาท่อระบายน้ำให้มีลวดลายแตกต่างออกไปในแต่ละพื้นที่โดยใช้แม่พิมพ์ในการหล่อฝาท่อและลงสีด้วยมือทำให้แข็งแรงและสวยงาม นอกจากนี้ยังได้พัฒนาให้ตัวฝาท่อเป็น Soft Power ด้วยดีไซน์ที่มีเฉพาะในแต่ละท้องถิ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาตามถ่ายรูปกัน

ฝาท่อระบายน้ำที่มีลวดลายแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องที่ เช่น ลายภูเขาไฟฟูจิ ลายตัวการ์ตูนชื่อดังอย่างปิกาจู สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยี่ยมชม รวมทั้งตามล่าฝาท่อลายต่าง ๆ เพื่อแลกบัตรสะสมลายฝาท่อระบายน้ำ และยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฝาท่อระบายน้ำ เช่น การนำฝาท่อระบายน้ำมาทำเป็นกระทะย่างเนื้อขายนักท่องเที่ยว การนำลายฝาท่อระบายน้ำมาทำเป็นลายบนขนมโดรายากิ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็น Soft Power ที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นใช้เผยแพร่วัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวได้เห็น

หันกลับมามองในประเทศไทยบ้าง รู้หรือไม่ว่าประเทศไทยก็มีฝาท่อระบายน้ำที่มีลวดลายสวยงามในกรุงเทพฯ เช่น เลียบคลองโอ่งอ่างเลียบคลองผดุงกรุงเกษมย่านเยาวราช-เจริญกรุง และทางเท้าบริเวณถ.ราชดำริ-ถ.เพลินจิต เป็นต้น อีกทั้งที่จ.ขอนแก่นยังมีฝาท่อระบายน้ำ AR ลายไดโนเสาร์ ที่ทั้งสวยงามและสามารถแสดงภาพเมืองขอนแก่นในอนาคตด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดบนฝา สะท้อนถึงความสามารถของคนไทยที่ทำฝาท่อระบายน้ำให้สวยงามได้ไม่แพ้ของญี่ปุ่น และสามารถต่อยอดไปเป็น Soft Power เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนไทยที่จะดึงดูดให้ชาวต่างชาติหันมาสนใจได้ หากมีการสนับสนุนให้ทำฝาท่อระบายน้ำที่มีลวดลายทั่วประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด